เปิดบริการตั้งแต่ 29 มกราคม 2550 - ปัจจุบัน
| เปิดบริการมาแล้ว 17 ปี 1 เดือน 28 วัน
19/02/2020 | by WTravel
ผู้หญิงมักมีบทบาทสำคัญในครอบครัวและชุมชนในประวัติศาสตร์ยุคต้นของมัลดีฟส์ มัลดีฟส์มี สุลต่าน หญิงหรือผู้ปกครองซึ่งเป็นหญิง และมีผู้ตั้งข้อสังเกตุว่ากาลครั้งหนึ่งสังคมมัลดีฟส์มีผู้หญิงเป็นใหญ่ ในสังคมปัจจุบันของมัลดีฟส์ ผู้หญิงดำรงตำแหน่งสำคัญในหน่วยงานรัฐบาลและธุรกิจมากมาย มีข้าราชการเป็นผู้หญิงในสัดส่วนที่สูง อัตราส่วนการรับเข้าศึกษาและการจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ระหว่างผู้ชายและผู้หญิงมีจำนวนใกล้เคียงกันมาก ผู้หญิงมีตำแหน่งอยู่ในคณะรัฐมนตรีและสภาผู้แทนราษฎร
  • เทศกาลสำคัญ
  • วัฒนธรรมและประเพณีของชาวท้องถิ่นยึดรูปแบบของชาวมุสลิมเป็นสำคัญ ตั้งแต่การประกอบ พิธีทางศาสนา ไปจนถึงวิถีชีวิตประจำวัน ซึ่งจะความเคร่งครัดในเรื่องการแต่งกายและอาหารเครื่องดื่มตามหลักศาสนา จำกัดอยู่ในตัวเมืองหลวงเป็นส่วนใหญ่ส่วนบนเกาะอื่นๆ นั้นจะมีบรรยากาศของเมืองท่องเที่ยวชายทะเล ที่ให้อิสระเสรีแด่แขกผู้มาเยือนอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันรีสอร์ต รวมถึงการคมนาคมทางเรือและเครื่องบิน ก็ถึงพร้อมในมาตรฐานระดับโลก ทั้งปลอดภัยและทันสมัย
ชาวบาหลีเชื่อว่าโลกคือบ้านของพวกเขาและนักเดินทางคืออาคันตุกะของพวกเขา ถึงแม้ว่าการขยายตัวของการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาทำให้ท่าทีเชิงบวกนี้ได้เปลี่ยนไป แต่ชาวบาหลีในปัจจุบันก็ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มชนที่มีความเป็นมิตร และน้ำใจไมตรีสูงมากกลุ่มหนึ่ง และก็ยังคงเป็นผู้ที่มีประเพณี เป็นหัวใจของการดำรงชีวิต นักท่องเที่ยวควรให้ความเคารพต่อประเพณีและทัศนคติของชาวบาหลี ที่อาจแตกต่างจากทัศนคติของตน ชาวบาหลีมีความสุภาพเป็นอย่างมาก และรอยยิ้มเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเกาะ ในปัจจุบันการทักทายด้วยการจับมือแบบตะวันตกเป็นการทักทายที่ใช้อยู่ทั่วไปทั้งชายและหญิง การใช้มือข้างซ้ายในการให้หรือรับของเป็นพฤติกรรมต้องห้าม (เนื่องจากมือข้างซ้ายใช้สำหรับทำกิจกรรมในห้องน้ำ) การใช้มือซ้ายชี้ก็เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน และการกระดิกนิ้วเรียกก็ถือว่าเป็นการไม่สุภาพอย่างมากเช่นกัน
  • Ramadan ช่วงเดือนเก้าของปฏิทินจันทรคติของอิสลามถือเป็นเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอด
  • Eid-ul lhaa เทศกาลบวงสรวง ตรงกับวันที่ 10 เดือน Zul Hiija หรือวันที่ 66 หลังวันเสร็จสิ้นการถือศีลอด เป็นช่วงวันหยุดยาวของชาวมัลดีฟส์ ราว 5-7 วัน ในช่วงนี้ผู้คนนิยมเดินทางไปเยี่ยมญาติพี่น้องเพื่อนฝูงตามเกาสะต่างๆ และมีการแสดงดนตรี เต้นรำ และกีฬาพื้นเมืองร่วมกับการเต้นรำและดนตรีสมัยใหม่
  • Kuda Eid วันสิ้นสุดเดือนถือศีลอด ในตอนเช้าชาวมุสลิมจะเดินทางไผปสวดมนต์ที่มัสยิด จากนั้นจะมีการฉลองที่บ้าน เชิญญาติพี่น้อง เพื่อน และเพื่อนบ้านมาร่วมรับประทานอาหาร ถือเป็นช่วงวันหยุดยาว 3 วัน
  • วันประสูติศาสดา   ชาวมัลดีฟส์เฉลิมฉองวันคล้ายวันประสูติศาสดาเช่นเดียวกับชาวมุสลิมทั่วโลก มีการเชิญแขกไปร่วมรับประทานอาหารที่บ้าน
  • การแสดงพื้นเมือง Bodu Beru Music
  • เป็นหนึ่งในการแสดงพื้นเมืองที่ได้รับความนิยมมาก พบได้ตามหมู่เกาะที่มีคนพื้นเมืองอาศัยอยู่ การแสดงนี้เป็นการแสดงที่ผู้คนทุกวัยชื่นชอบ และเข้าร่วม อุปกรณ์การแสดงจะประกอบด้วยกลองสามหรือสี่อันซึ่งทำจากมะพร้าว มีนักร้องนำหนึ่งคนและผู้ร่วมวงร้องเสียงประสานอีกจำนวน 10 – 15 คน
  • Bandiyaa Jehun Dance เป็นหนึ่งในการแสดงที่นิยมเช่นกัน โดยให้นักแสดงหญิงถือโถน้ำโลหะ ในขณะที่ทำการร้องเพลงซึ่งแต่งขึ้นก็จะทำการเคาะตามจังหวะด้วยนิ้วมือซึ่งสวมแหวนเบาๆ
  • ศิลปะ หัตถกรรมพื้นเมือง มัลดีฟส์ศิลปะและหัตถกรรมเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของพื้นหลังทางวัฒนธรรมของประเทศที่สะท้อนถึงจิตใจของผู้คน ที่นี่สามารถพบศิลปหัตถกรรมมากมายจากช่างฝีมือของมัลดีฟส์ มีการแกะสลักหินปะการัง ศิลปะการปั้นที่ซับซ้อน มีหัตถกรรมจากการสานพรมโดยบรรดาหญิงชาวบ้าน มีพรมลายต่างๆในหลากหลายขนาดให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อกลับไปประดับบ้าน ศิลปะของที่นี่เป็นจุดสนใจและได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อน
นอกจากนี้หากต้องการชมศิลปะเก่าแก่ของมัลดีฟส์สามารถหาดูได้จากแกลเลอรี่เอสเจฮิ (Esjehi Gallery) ที่ตั้งแกลเลอรี่เอสเจฮิถือได้ว่าเป็นตึกเก่าแก่ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในมาเล่ สร้างขึ้นตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 1870 เดิมเป็นบ้านขุนนาง ซึ่งปัจจุบันถูกใช้เป็นที่แสดงงานศิลปะ ทั้งศิลปะร่วมสมัยและศิลปะพื้นเมืองของมัลดีฟส์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนน Medhuziyaaraiy Magu
  • อาหาร มัลดีฟส์ อาหารมัลดีฟส์แบบดั้งเดิมจะขึ้นอยู่กับส่วนประกอบสามรายการหลักต่อไปนี้และเครื่องปรุงอื่นๆ
  • มะพร้าว มะพร้าวจะใช้ในรูปแบบขูด คั้นให้ได้กะทิหรือเคี่ยวเป็นน้ำมันมะพร้าวสำหรับทอด Hunigondi เป็นอุปกรณ์พื้นบ้านของมัลดีฟส์แบบดั้งเดิมที่ใช้ขูดมะพร้าว มันเป็นเก้าอี้เตี้ยทรงยาวกับใบมีดเหล็กเป็นซี่ ๆ ที่ส่วนปลาย (คล้ายกระต่ายขูดมะพร้าวของไทย) กะทิเป็นส่วนประกอบสำคัญในแกงหลายชนิดของมัลดีฟส์
  • ปลา ปลาที่นิยมคือปลาทูน่าทั้งแห้งหรือสด ปลาที่ชื่นชอบอื่น ๆ จะได้แก่ปลา little tuny (latti) ปลาทูน่าเหลือง (kanneli) ปลาทูน่าฟริเกต (raagondi) bigeye scad (mushimas) wahoo (kurumas) and Mahi-mahi (fiyala) ปลาเหล่านี้สามารถรับประทานต้มหรือแปรรูป ชิ้นปลาทูน่าแปรรูปอาจจะใช้ทั้งชิ้นหรือตัดแบ่ง ในการทำแกง ปลาดิบหรือปลาทูน่าแปรรูปถูกตัดออกเป็นชิ้นหนาขนาด 1/2 นิ้ว(13 มม. )ปลาทูน่าแห้งใช้เป็นหลักในอาหารที่เรียกว่า gulha kavaabu bajiyaa และ fatafolhi ชาวมัลดีฟส์ไม่ได้มีประเพณีการรับประทานปลาดิบ ซึ่งแตกต่างจากชาวหมู่เกาะแปซิฟิกส่วนใหญ่
  • แป้ง แป้งที่นิยมบริโภค เช่นข้าวซึ่งต้มกินหรือบดเป็นแป้ง พืชหัวเช่นเผือก (ALA) มันเทศ (kattala) หรือมันสำปะหลัง (dandialuvi) เช่นเดียวกับผลไม้ เช่น สาเก (bambukeyo) ลำเจียกหรือเตยทะเล (kashikeyo) พืชหัวและสาเกจะต้มกิน ผลลำเจียกจะกินดิบหลังจากหั่นเป็นชิ้นบาง
ตัวอย่างอาหารมัลดีฟส์  Dhon Riha (Maldivian Tuna Curry)  Masroshi เป็นแป้งที่นำไปอบในเตาที่มีใส้ในเป็นทูน่าเป็นชิ้นเล็กๆซึ่งผสมพริก หัวหอม ขิง ผงแกงลงไปผสมกันกับน้ำมะนาวและเกลือ และมะพร้าว